เมนู

พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในศฤงคาร
บุคคลไม่ปฏิสนธิเกิดใหม่นั้นด้วยโยนิโสมนสิการกับกุศลธรรมอื่นที่บำเพ็ญไว้แต่ก่อน มีบารมี
เต็มตามกำหนดให้สำเร็จพระนิพพาน อีกกับปัญญาพร้อมด้วยสิ่ง 3 ประการนี้ จึงมิได้เกิดใหม่
ขอถวายพระพร
พระเจ้ามิลินท์มีพระราชโองการซักถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้มี ปรีชา
ญาณ โยนิโสมนสิการนั้นไม่ใช่ปัญญาหรือประการใด
พระนาคเสนวิสัชนาแก้ไขว่า โยนิโสมนสิการมิใช่ปัญญา และโยนิโสมนสิการนั้นมี
ลักษณะสถาน 1 ปัญญามีลักษณะสถาน 1 และโยนิโสมนสิการนั้น มีในสันดานแห่งสัตว์
ทั้งหลายคือวัวควายช้างม้าสรรพสัตว์ทั้งปวงเหล่านี้และสัตว์ดังพรรณนานี้จะได้มีปัญญาหามิได้
มีแต่โยนิโสมนสิการ ขอถวายพระพร
มนสิการปัญหา คำรบ 7 จบเท่านี้

มนสิการลักขณปัญหา ที่ 8


สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามด้วยลักษณะแห่ง
โยนิโสมนสิการว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้านาคเสนผู้ปรีชาญาณ และโยนิโสมนสิ-
การนั้นมีลักษณะอย่างไร
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า โยนิโสมนสิการนั้น อุสฺสาหลกฺขโณ มีลักษณะให้อุต
สาหะมีพยายามความเพียรประการ 1 คหรลกฺขโณ มีลักษณะจะถือเอาให้ได้ เหมือนกับสัตว์
เป็นต้นว่าแพะลาโคมหิสา ถึงจะผูกไว้ก็จะดิ้นไปกินหญ้านั้นประการ 1 ขอถวายพระพร
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนครจึงมีพระราชโองการถามว่า ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประ
เสริฐด้วยปรีชาญาณ ลักษณะปัญญานั้นอย่างไร
พระนาคเสนวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในสิริ
มไหศวรรย์ ปัญญานั้นมีลักษณะตัดให้ขาด ขอถวายพระพร
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนคร มีพระราชโองการนิมนต์พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ
ให้กระทำอุปมา จึงตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประกอบด้วยปรีชาญาณ

ลักษณะโยนิโสมนสิการ กับลักษณะปัญญา ที่พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนามานี้ โยมฟังยังคลางแคลง
อยู่ นิมนต์อุปมาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพรอุปมาว่า มหาราช ดูรานะมหาบพิตรพระราชสมภารผู้
ประเสริฐในศฤงคาร ลักษณะโยนิโสมนสิการกับลักษณะปัญญานี้ ถ้าจะเปรียบเป็นอันเดียว
เหมือนเกี่ยวข้าง ลักษณะชาวนาเกี่ยวข้าวนั้น เขาทำประการใด
อ้อ โยมเข้าใจอยู่
มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในมไหศวรรย์ ชาวนาเกี่ยวข้าวนั้นเขา
ทำอย่างไร
อ้อ ชาวนานั้นเขาเอาเท้าเหยียบต้นข้าวไว้มิให้ขยาย วามหตฺเถน มือซ้ายหน่วงเอา
รวงข้างนั้นมา ทกฺขิณหตฺเถน มือขวาจับเคียวเกี่ยวกระชากให้รวงข้าวขาดติดมือเบื้องซ้าย
ชาวนาทั้งหลายเขากระทำอย่างนี้ โยมรู้อยู่
มหาราช ดูรานะบพิตรผู้ประเสริฐในสิริมไหศวรรย์ ความนี้ฉันใด มือซ้ายที่ถือรวงข้างไว้
ได้แก่โยนิโสมนสิการอันมีลักษณะถือเอา มือขวาที่ถือเคียวเกี่ยวรวงข้างตัดกระชากให้ขาดนั้น
ได้แก่ปัญญาอันมีลักษณะตัดให้ขาด ด้วยประการดังนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี ได้ฟังพระนาคเสนอุปมาก็ทรงพระปรีชาชื่นชม ตรัสว่า
พระผู้เป็นเจ้าอุปมานี้ กลฺโลสิ สมควรนักหนา สาธุสัตบุรุษผู้มีศรัทธาพึงเข้าใจเถิดว่า บุคคลที่
ไม่เกิดอีกนั้นคือพระอรหันตขีณาสพ ท่านไม่เกิดอีก คือท่านเข้านิพพาน
มนสิการลักขณปัญหา คำรบ 8 จบเท่านี้

สีลปติฏฐายลักขณปัญหา ที่ 9


ลำดับนั้นมา บรมกษัตริย์มีพระราชปุจฉาถามซึ่งอรรถปัญหาสืบต่อไปว่า ลักษณะที่จะ
ได้พระนิพพานไม่เกิดอีกนี้อาศัยเหตุอย่างไร
พระนาคเสนแก้ว่า ขอถวายพระพร บุคคลที่ไม่เกิดใหม่ไปพระนิพพานนั้นด้วยเหตุ 3
ประการ คือกุศลอันหนึ่งได้แก่บารมีสร้างมานั้นแก่กล้าวอย่าง 1 มีมนสิการอุตสาหะยึดหน่วงถือ